หลาย ๆ สาเหตุของการเกิดโรคหรืออาการเจ็บป่วยต่าง ๆ มักจะมีที่มาจากพฤติกรรมและความเคยชินที่ทำกันเป็นประจำ ซึ่งหลายอย่างเป็นพฤติกรรมที่ไม่ดี ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคร้ายแรงได้ ‘กรดไหลย้อน’ ก็ถือเป็นหนึ่งในนั้น ถ้าหากสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตใหม่ได้ โรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ก็จะลดลงได้มากเลยทีเดียว
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ กรดไหลย้อน
กรดไหลย้อน คืออะไร?
โรคกรดไหลย้อน (GERD) เป็นอีกโรคหนึ่งที่มักจะเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันที่มีความเสี่ยง และเป็นกิจกรรมทั่วไปที่ทุกคนต้องทำ ซึ่งก็คือการกินกับการนอนน้อย นอนดึกนั่นเอง แม้จะเป็นเรื่องธรรมดาทั่วไป แต่ถ้าไม่มีการควบคุมให้เหมาะสมและถูกวิธีก็สามารถก่อให้เกิดโรคได้ โดยโรคกรดไหลย้อนนั้นเป็นอาการที่น้ำย่อยจากกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมาที่หลอดอาหาร ซึ่งเป็นผลมาจากบริเวณหูรูดส่วนปลายของหลอดอาหารเกิดความผิดปกติ เช่น ความดันของหลอดอาหารต่ำลง ไม่สามารถต้านแรงดันในช่องท้องได้ หรือเกิดการคลายตัวของหูรูดหลอดอาหารโดยไม่มีการกลืน ทำให้เกิดเป็นโรคกรดไหลย้อนขึ้นได้
กรดไหลย้อนอาการ
สำหรับอาการของโรคกรดไหลย้อนนั้นมีข้อบ่งชี้อยู่หลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นอาการที่เกิดขึ้นทางคอหอยและหลอดอาหาร เช่น รู้สึกกลืนอาหารลำบาก เหมือนมีก้อนบางอย่างติดอยู่ในคอ ทำให้ติดขัดและรู้สึกเจ็บเวลากลืน มีอาการเจ็บคอ มีเสมหะ เรอบ่อย คลื่นไส้ รู้สึกคล้ายกับมีน้ำย่อยไหลย้อนขึ้นมาในคอ ในปากมีรสขมของน้ำดี หรือมีรสเปรี้ยวจากกรดในคอ มีอาการปวดแสบปวดร้อนตรงหน้าอกและลิ้นปี่
นอกจากนี้ยังมีอาการที่เกิดนอกระบบหลอดอาหาร เช่น มีอาการไอเรื้อรัง เป็นหวัด เจ็บคอ เสียงแหบบ่อย ๆ ในตอนเช้า มีกลิ่นปาก มีอาการเสียวฝันหรือมีฟันผุเกิดขึ้น หลายครั้งอาการของโรคกรดไหลย้อนมักจะทำให้ผู้ป่วยที่เป็นโรคหอบหืดอยู่แล้วมีอาการแย่ลง และส่งผลทำให้เป็นโรคปอดอักเสบได้เพราะการใช้ยาไม่ได้ผลเหมือนเดิม
กรดไหลย้อนอาการหนัก
อาการของโรคกรดไหลย้อนจะหนักขึ้นเมื่อมีปัจจัยอื่น ๆ เข้ามาร่วมด้วย เช่น ผู้ป่วยที่มีภาวะอ้วน หรือมีน้ำหนักมากเกินไป ก็อาจจะทำให้เกิดแรงดันในช่องท้องเพิ่มมากขึ้น ผู้ป่วยที่กำลังตั้งครรภ์ โรคบางอย่างที่ทำให้การบีบตัวของหลอดอาหารลดลง และกระเพาะอาหารที่เคลือนตัวช้าผิดปกติ นอกจากนี้ยังต้องระวังอาการแทรกซ้อนที่สามารถเกิดขึ้นได้ เช่น อาการหลอดอาหารอักเสบหรือบีบ ทำให้กลืนอาหารได้ลำบาก อาการเซลล์เยื่อบุในหลอดอาหารมีการเปลี่ยนแปลง ถ้ามีอาการรุนแรงก็อาจจะกลายเป็นมะเร็งหลอดอาหารได้
กรดไหลย้อน วิธีแก้
การรักษาโรคกรดไหลย้อน สิ่งที่ต้องทำเป็นอย่างแรกเลยก็คือ
1. การปรับพฤติกรรมการกินอาหาร
ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง อาหารประเภททอดต่าง ๆ อาหารย่อยยาก ของหวาน ขนม อาหารฟาสต์ฟู้ด อาหารรสจัด และควรกินแต่พอดี อย่ากินจนแน่นเกินไป เพราะระบบย่อยอาหารจะต้องทำงานหนัก
2. ต้องปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต
ลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคได้โดยการงดสูบบุหรี่ งดดื่มแอลกอฮอล์ อาหารและเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน หลังจากกินอาหารแล้วห้ามนอนหรือออกกำลังกายทันที ควรรอเวลาให้อาหารได้ย่อยก่อน หลีกเลี่ยงการใส่เสื้อผ้าที่คับแน่นเกินไป ส่วนคนที่มีน้ำหนักเดินหรืออยู่ในภาวะอ้วน ควรลดน้ำหนัก เพื่อไม่ให้อาการของโรคกรดไหลย้อนรุนแรงขึ้น
ส่วนถ้าการปรับพฤติกรรมการใช้ซีวิตแล้วไม่เห็นผลเท่าที่ควร ก็สามารถรักษาได้ด้วยการใช้ยา เนื่องจากเป็นวิธีที่เห็นผลได้เร็ว จึงมีผู้ป่วยเลือกใช้วิธีการรักษาด้วยยาเป็นจำนวนมา แต่การกินยาก็ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ และต้องกินอย่างสม่ำเสมอ ห้ามซื้อยากินเอง หรือหยุดยาเองเด็ดขาด
กรดไหลย้อนห้ามกินอะไรบ้าง?
ผู้ป่วยที่เป็นโรคกรดไหลย้อนควรหลีกเลี่ยงอาหารดังนี้ อาหารที่มีไข่มันสูง ผ่านการทอด ผัด เพราะจะไปกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนที่ส่งผลให้หูรูดของหลอดอาหารผิดปกติ อาหารรสจัด ผลไม้รสเปรี้ยว ช็อกโกแลต อาหารที่มีส่วนประกอบของกะทิ เนย ชีส ครีม ขนมเบเกอรี่ต่าง ๆ อาหารที่เผ็ดจัด เพราะมักจะใช้เวลาย่อยนานกว่าอาหารอื่น ๆ ถ้าอยากหายจากอาการกรดไหลย้อน ก็ต้องควบคุมการกินอย่างเคร่งครัด
บทความแนะนำ
