โรคปอดอักเสบ หรืออีกชื่อที่คุ้นเคยกันมากกว่าก็คือโรคปอดบวม เป็นโรคที่ค่อนข้างอันตราย และสามารถส่งผลรุนแรงไปจนถึงการเสียชีวิตได้ ดังนั้น เมื่อมีอาการเริ่มต้นก็ต้องรีบไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุด แต่สาเหตุและอาการจะมีอะไรบ้างนั้น วันนี้เรามีข้อมูลน่ารู้มาฝากกัน
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับปอดอักเสบ
โรคปอดอักเสบหรือโรคปอดบวมจะสามารถเกิดขึ้นได้จาก 3 สาเหตุ คือ
3 สาเหตุของปอดอักเสบ
1. เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส หรือเชื้อโรคอื่น ๆ เช่น เชื้อนิวโมค็อกคัส (Pneumococcus) ไข้หวัดใหญ่ เชื้อไวรัสซาร์ส เชื้อรา หรือพยาธิต่าง ๆ เป็นต้น
2. แม้จะไม่ได้ติดเชื้อก็สามารถเป็นปอดอักเสบได้ เนื่องจากมีการหายใจเอาฝุ่นควันหรือมลพิษเข้าไปในร่างกายในปริมาณที่ค่อนข้างมาก จะส่งผลต่อปอดโดยตรง ทำให้ผุ่นควันเหล่านั้นเข้าไปทำอันตรายกับปวอดจนเกิดอาการปอดอักเสบได้ นอกจากนี้ยังมีการสำลักอาหารที่หลายคนอาจจะคาดไม่ถึงว่าก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคนี้เช่นกัน
3. เมื่อร่างกายมีภูมิต้านทานต่ำ หรือเกิดจากการแพ้ภูมิตัวเอง ก็สามารถทำให้เกิดโรคปอดอักเสบได้ มักจะพบในผู้ป่วยโรคเอสแอลอี (SLE) ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยพิษสุราเรื้อรัง ทารกที่คลอดก่อนกำหนด ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้ป่วยโรคเอดส์ เป็นต้น
อาการเบื้องต้นของผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจะมีอาการไอแบบมีเสมหะ หายใจเร็ว หอบ และหายใจลำบาก เวลาไอจะรู้สึกเจ็บหน้าอกมากเป็นพิเศษ อาจจะรู้สึกร้าวไปที่หัวไหล่หรือสีข้าง ไข้ขึ้น หนาวสั่น อ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน และอาจมีอาการท้องเสียร่วมด้วย
ในเด็กเล็กอาจจะมีอาการท้องอืด ไม่ยอมดื่มนมหรือน้ำ ส่วนในผู้สูงอายุจะมีอาการซึม อุณหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติ อาการต่างๆที่กล่าวมาในแต่ละคนอาจจะมีความรุนแรงที่แตกต่างกัน เมื่อมีอาการหรือรู้สึกไม่ปกติก็ควรรีบไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุด
ส่วนใหญ่แล้วการรักษาโรคปอดอักเสบนั้นจะเป็นไปตามการวินิจฉัยของแพทย์ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับอาการของผู้ป่วยแต่ละคน ซึ่งจะแยกเป็นการรักษาโรคปอดอักเสบแบบติดเชื้อ และไม่ติดเชื้อ ถ้าเป็นการป่วยเพราะติดเชื้อจะต้องรับประทานยาฆ่าเชื้อตามแต่ละชนิดของเชื้อที่พบ ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้น ก็จำเป็นต้องอยู่รักษาต่อที่โรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์สามารถติดตามอาการได้อย่างใกล้ชิด
ผู้ป่วยปอดอักเสบที่ติดเชื้อ จะต้องรับประทานยาฆ่าเชื้อ
โรคปอดอักเสบเป็นโรคระบบทางเดินหายใจที่มีความอันตรายอย่างมาก เพื่อรู้สึกว่าตัวเองมีการผิดปกติก็ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษา ซึ่งเมื่อทราบว่าเป็นโรคปอดอักเสบแล้ว ก็ต้องดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์ และรับประทานยาให้ครบ
เมื่อป่วยเป็นโรคปอดอักเสบก็ต้องมีการดูแลตัวเองให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะอาหารการกินที่ต้องใส่ใจมากเป็นพิเศษ เพื่อช่วยให้หายจากโรคร้ายได้เร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิม สิ่งที่ต้องระวังมากเป็นพิเศษก็คืออาหารต้องห้ามที่จะไปกระตุ้นทำให้อาการของโรคร้ายแรงยิ่งกว่าเดิม ดังนั้น เมื่อคุณป่วยเป็นโรคปอดอักเสบควรจะงดดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนทุกชนิด เช่น ชา กาแฟ และแอลกอฮอล์ ควรงดของทอดเพื่อป้องกันอาการไอหรือคันคอ งดอาหารที่มีกลิ่นฉุน เพราะอาจจะกระตุ้นให้จามได้ ของหมักดอง หรืออาหารรสจัดก็ควรงดเช่นกัน
โรคปอดอักเสบสามารถติดต่อกันได้ มักจะพบได้บ่อยในช่วงที่อากาศมีการเปลี่ยนแปลงบ่อย เช่น ช่วงฤดูฝน เนื่องจากมีผู้ป่วยเป็นไข้หวัดจำนวนมาก จึงทำให้ร่างกายอ่อนแอ ภูมิคุ้มกันต่ำลง เมื่อได้รับเชื้อจากผู้อื่นร่วมด้วยก็สามารถติดเชื้อได้ง่าย เมื่อเชื้อเข้าสู่ปอดก็เสี่ยงที่จะเกิดโรคปอดอักเสบหรือปอดบวมได้ ซึ่งโอกาสที่จะได้รับเชื้อจากผู้อื่นนั้นก็มีสูงมากเช่นกัน ดังนั้น เมื่อรู้สึกว่าไม่สบาย หรือต้องอยู่ใกล้ผู้ป่วยก็ควรสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันไว้ก่อน
ปอดอักเสบ กินยาอะไร?
ส่วนใหญ่แล้ว การรักษาโรคปอดอักเสบแบบที่มีการติดเชื้อ แพทย์มักจะให้รับประทานยาปฏิชีวนะหรือยาฆ่าเชื้อตามแต่ละชนิดที่ตรวจพบ นอกจากนี้ยังมียาลดไข้ ลดเสมหะ ยาขยายหลอดลมให้ตามอาการที่พบ และอาจจะต้องให้ออกซิเจนหรือให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำเมื่อมีอาการที่รุนแรงขึ้น นอกจากนี้แพทย์จะยังคอยประเมินอาการแทรกซ้อนอยู่ตลอด เพราะมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้
ถ้าใครที่ไม่อยากเป็นโรคปอดอักเสบหรืออยากป้องกันไว้ก่อนสามารถหาข้อมูลการฉีดวัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบได้ นอกจากนี้ยังสามารถฉีดวัคซีนป้องกันโรคอื่นที่ช่วยให้โอกาสการเกิดโรคปอดบวมลดลงได้ เช่น วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ที่จำเป็นต้องฉีดเป็นประจำอยู่แล้ว การดูแลสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ หมั่นตรวจสุขภาพ และออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อให้ร่างกายสามารถแข็งแรงต้านทานโรคร้ายได้