เคยเป็นไหม นั่งทำงานอยู่เฉย ๆ ก็ปวดเมื่อยไปหมดทั้งตัว สาเหตุเกิดที่อาการปวดตามร่างกาย ไม่ว่าจะคอ บ่า ไหล่ นั้นเป็นผลมาจากการที่เรานั่งทำงานติดต่อกันเป็นเวลานานทั้งนั้น บางคนนอนน้อยฟุบหลับกับโต๊ะจนนั่งผิดท่า จนเกิดเป็นโรคออฟฟิศซินโดรม โรคยอดฮิตที่คนทำงานมักจะเป็นกัน ถ้าอยากรู้ว่ามีวิธีการป้องกันและรักษาอย่างไรได้บ้าง วันนี้เรามีคำตอบมาฝากกัน
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ ออฟฟิศซินโดรม
โรคออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) อาการที่เกิดจากพฤติกรรมการนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์นาน ๆ ทำให้ร่างกายเกิดความผิดปกติ โดยเฉพาะคนที่ต้องนั่งท่าเดิมติดต่อกันเป็นเวลานาน หรือมีท่าทางการนั่งที่ไม่เหมาะสม ก็สามารถทำให้เกิดโรคออฟฟิศซินโดรมได้ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักจะเกิดในกลุ่มพนักงานออฟฟิศที่มักจะมีพฤติกรรมแบบที่กล่าวมา จึงกลายมาเป็นชื่อโรคอย่างที่เรารู้จักกันนั่นเอง
อาการของโรคออฟฟิศซินโดรมนั้น มักจะเกิดขึ้นตามกระดูกและกล้ามเนื้อ จะมีอาการปวดเมื่อยอย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังมีอาการอื่น ๆ เช่น ปวดเฉพาะส่วนบริเวณคอ บ่า ไหล่ เนื่องจากนั่งท่าเดิมเป็นเวลานาน มีอาการหลังค่อ ไหล่งุ้ม เพราะท่านั่งไม่ถูกต้อง อาจจะส่งผลต่อสุขภาพด้านอื่น ๆ อีกด้วย เช่น เมื่อนั่งหน้าคอมพิวเตอร์นาน ๆ ก็อาจจะทำให้ตาล้าพร่ามัวได้ ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการไมเกรน ปวดหัวเรื้อรัง ปวดหลัง ปวดกล้าเนื้อบริเวณแขนท่อนล่าง เอ็นรัดข้อมืออักเสบกดทับเส้นประสาท ปลอกหุ้มเอ็นกล้ามเนื้อบริเวณนิ้วโป้งอักเสบ และเกิดอาการนิ้วล็อก มือชา นิ้วชา ซึ่งในแต่ละอาการก็สร้างความเป็นปวดได้เป็นอย่างดี แถมการรักษาก็ต้องใช้เวลา ผู้ป่วยโรคออฟฟิศซินโดรมจึงต้องหมั่นปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองให้ได้
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า สาเหตุของการเกิดโรคออฟฟิศซินโดรมนั้นก็มาจากพฤติกรรมการทำงานทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นการนั่งท่าเดิมนาน ๆ โดยไม่ได้เปลี่ยนท่า หรือขยับตัวไปไหน การนั่งทำงานหน้าคอมที่ต้องใช้สายตาสู้กับแสงจอคอมพิวเตอร์แทบตลอดทั้งวัน รวมไปถึงน่านั่งที่ไม่เหมาะสม แม้จะรู้สึกสบายตัวแต่ถ้านั่งนาน ๆ ก็จะทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยตามจุดต่าง ๆ ได้ เมื่อมีหลาย ๆ ปัจจัยมารวมกัน ก็เกิดเป็นโรคออฟฟิศซินโดรมที่สร้างความเจ็บปวดให้หลายคนมาแล้ว
การรักษาอาการออฟฟิศซินโดรมนั้น ถ้าต้องการให้หายอย่างเด็ดขาด จะต้องเป็นการรักษาที่ได้รับความร่วมมือจากทั้งหมอและผู้ป่วย เพราะถ้าไม่สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ทำอยู่เป็นประจำได้ อาการเจ็บป่วยที่กำลังเผชิญอยู่ก็ไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้ เป็นเพียงการบรรเทาเท่านั้น หรืออาจจะทำให้อาการยิ่งแย่ลงกว่าเดิม
ซึ่งการรักษาอาการออฟฟิศซินโดรมที่ได้ผล และน่าสนใจ เช่น ต้องปรับท่าทางในการนั่งทำงานให้เหมาะสม ถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์ เช่น ไม่นั่งตัวงอ หลังงุ้ม การนั้นขัดสมาธินาน ๆ ส่วนอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำงานก็มีผลเช่นกัน ในการจัดโต๊ะหรือจัดโซนทำงาน ควรเลือกโต๊ะ เก้าอี้ทำงาน ที่เหมาะสมและช่วย support การนั่งทำงาน สถานที่ที่อยู่ก็ควรมีแสงสว่างเพียงพอ หน้าจอมีแสงที่พอดี เพื่อลดการกระตุ้นอาการตาพร่าจนก่อให้เกิดอาการไมเกรนได้
หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอาการเจ็บปวด ถ้าเป็นงานที่ต้องใช้ร่างกายส่วนใดส่วนหนึ่งนาน ๆ ต้องหาอุปกรณ์ที่จะช่วยพยุงอวัยวะนั้น ๆ ได้ ป้องกันการเกิดอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อและกระดูก และอีกหนึ่งวิธีที่ควรทำเป็นประจำก็คือ การออกกำลังกายนั่นเอง เพราะการออกกำลังกายนอกจากจะดีต่อสุขภาพโดยรวมแล้ว ยังช่วยในเรื่องของกล้ามเนื้ออีกด้วย เมื่อมีการออกกำลังกายเป็นประจำ กล้ามเนื้อก็จะยืดหยุ่นได้ดี ทำให้มีความสามารถในการทำงานมากขึ้น แม้ว่าจะป้องกันไม่ได้ 100% แต่ก็จะทำให้กล้ามเนื้อของคุณทนทานได้มากขึ้น
เมื่อเกิดอาการปวดเมื่อยร่างกายมาก ๆ จนไม่สามารถทนได้แล้ว การทำกายภาพบำบัดจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้อาการออฟฟิศซินโดรมได้บรรเทาหรือว่าหายขาดได้ แต่ถ้าใครยังไม่สะดวกที่จะไปจ้างนักกายภาพบำบัดมาทำให้ ก็สามารถทดลองใช้ท่ากายภพบำบัดง่าย ๆ ทำเองที่บ้านไปก่อน ซึ่งท่าที่น่าสนใจก็คือการยืดกล้ามเนื้อบริเวณคอ บ่า ไหล่ โดยการนั่งหลังตรง ใช้มือขวาดึงศีรษะมาทางซ้าย โดยใช้มือจับบริเวณใบหูอีกข้าง ดึงจนกว่าจะรู้สึกตึงที่กล้ามเนื้อ ค้างไว้ 15 วินาที แล้วสลับทำอีกข้าง ท่านนี้จะช่วยลดอาการปวดเมื่อบริเวณต้นคอได้ ใน 1 เซต ควรทำประมาณ 10-15 ครั้ง ทำทุกวันจะยิ่งเห็นผลได้เร็ว
อีกท่าที่น่าสนใจคือท่าเหยียดขา โดยการนั่งตัวตรงบนเก้าอี้ ไม่ต้องพิงหลัง เอามือ 2 ข้างวางไว้ข้างลำตัว จากนั้นเตะขาออกไปข้างหน้า ยืดเหยียดออกไปให้ตรง และกระดกข้อเท้าขึ้นมา จะรู้สึกเกร็ง ๆ และตึงไปทั้งขา ให้ค้างท่านี้ไว้ 5-10 วินาที ทำวนแบบนี้ไปเรื่อย ๆ แล้วแต่ความสะดวก