ปัญหากลิ่นปากเป็นปัญหาที่สร้างความไม่มั่นใจให้กับใครหลายคนมาก ๆ แม้ว่าจะมีการดูแลสุขภาพช่องปากที่ดี แต่ก็ยังหนีไม่พ้นกลิ่นปากและอาการลมหายใจเหม็นได้แบบ 100% และนอกจากจะทำให้ผู้ที่มีกลิ่นปากรู้สึกเสียความมั่นใจแล้ว คนที่อยู่รอบข้างก็ได้รับผลกระทบจากกลิ่นปากนี้ด้วย ดังนั้น จึงต้องหาวิธีที่จะป้องกันและรักษากลิ่นที่ไม่พึงประสงค์นี้ออกไปจะดีที่สุด ก่อนอื่นเราต้องมารู้กันก่อนว่ามีปัจจัยหรือสาเหตุอะไรบ้างที่ก่อให้เกดกลิ่นปาก เพื่อที่จะได้รู้วิธีป้องกัน วันนี้เราจึงมีข้อมูลที่น่าสนใจมาฝากกัน
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับลมหายใจเหม็น
ลมหายใจเหม็น เกิดจากอะไร?
การที่มีลมหายใจเหม็นหรือมีกลิ่นปากนั้น เกิดได้จากหลายปัจจัยด้วยกัน แต่สาเหตุหลัก ๆ ที่ที่ทำให้มีกลิ่นปากนั้นมาจากแบคทีเรียที่เกิดในช่องปาก ซึ่งแบคทีเรียเหล่านั้นก็มาจากการเน่าเปื่อยของอาหารที่เรากินเข้าไปนั่นเอง เมื่อไม่มีการทำความสำอาดช่องปากในทันทีหลังจากที่กินอาหารเข้าไป เศษอาหารที่หลงเหลืออยู่ในปากก็จะทำการสร้างแบคทีเรียขึ้นมา กลายเป็นกลิ่นปากที่สร้างความรำคาญใจและทำให้หลายคนไม่มั่นใจที่จะพูดคุยกับผู้อื่น นอกจากจะทำให้เกิดเป็นกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์แล้ว แบคทีเรียเหล่านี้ยังเป็นตัวการที่ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพช่องปากอื่น ๆ ได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นอาการฟันผุ หรือโรคเหงือก จึงจำเป็นต้องหมั่นทำความสะอาดช่องปากบ่อย ๆ โดยเฉพาะหลังจากที่กินอาหารเข้าไป ควรแปรงฟันหรือบ้วนปาก เพื่อลดการเกิดแบคทีเรียในช่องปากได้
นอกจากแบคทีเรียที่เกิดจากอาหารที่กินเข้าไปแล้ว กลิ่นปากหรืออาการลมหายใจเหม็นก็เกิดมาจากอาหารที่กินเข้าไปมีกลิ่นแรง จึงทำให้มีกลิ่นปากตามมาด้วย เช่น การกินกระเทียม หัวหอม สะตอ ชะอม หรือกะปิ เป็นต้น ซึ่งเป็นอาหารที่มีกลิ่นค่อนข้างเฉพาะและรุนแรง ต่อให้เพิ่งกินเข้าไป ไม่ต้องรอให้กลายเป็นแบคทีเรียก็สามารถทำให้เกิดกลิ่นปากที่ชัดเจนได้แล้ว ส่วนปัจจัยอื่น ๆ ที่มักจะทำให้ลมหายใจมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ ได้แก่ การเกิดกลิ่นปากจากต่อมน้ำลายมีปัญหา การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ การกินอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตน้อย หรือเป็นโรคต่าง ๆ ที่มีผลทำให้เกิดกลิ่นปาก เช่น โรคเบาหวาน โรคระบบทางเดินหายใจติดเชื้อ โรคกรดไหลย้อน และต่อมทอนซิลมีปัญหา เป็นต้น
4 กลิ่น ลมหายใจเหม็น
ปัญหาลมหายใจเหม็นหรือมีกลิ่นปาก กลายเป็นเรื่องที่สร้างความลำบากให้กับผู้ที่มีปัญหามาก ๆ เพราะบางครั้งเราก็ไม่รู้ตัวว่าตัวเองมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ ถ้าไม่สังเกตตัวเองดี ๆ หรือมีคนรอบข้างบอกมา ก็อาจจะไม่รู้เลยก็เป็นได้ เนื่องจากหลาย ๆ คนก็มีการดูแลและทำความสะอาดช่องปากอยู่เสมอ จึงค่อนข้างมั่นใจว่าจะไม่มีกลิ่นปากที่รุนแรงจนเกินไป แต่บางครั้งก็อาจจะเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ที่ควบคุมได้ยาก โดยกลิ่นลมหายใจเหม็นที่มักจะเจอได้บ่อย ๆ และอาจจะเป็นสัญญาณบอกโรคนั้น มีอยู่ 4 กลิ่นด้วยกันดังนี้
1. เหม็นเขียว
เป็นกลิ่นลมหายใจคล้ายกับกลิ่นหญ้าไหม้ หรือกลิ่นคล้ายฝรั่งสุก จะเป็นกลิ่นที่พบได้ในคนที่ได้รับสารพิษจำพวกฟอสฟอรัสหรือสารพิษจากการเสพกัญชาเข้าไป
2. เหม็นเปรี้ยว หรือกลิ่นเหมือนขนมปังบูด
ถ้ามีกลิ่นปากแบบนี้ คุณต้องระวังเรื่องอาหารการกินให้มากเป็นพิเศษ เพราะเป็นสัญญาณที่กำลังบอกว่าร่างกายของคุณนั้นขาดสารอาหารประเภทวิตามินบี 6 และวิตามินบี 3 ควรกินอาหารที่มีสารอาหารเหล่านี้เพิ่มเติม เช่น เนื้อสัตว์ต่าง ๆ ทั้งเนื้อไก่ เนื้อปลา เนื้อวัว เครื่องในไก่ ถั่วและธัญพืช ยีสต์ ไข่ กล้วย เป็นต้น
3. เหม็นเน่า
เป็นกลิ่นเหม็นที่ค่อนข้างรุนแรง บ่งบอกถึงสุขภาพช่องปากของคุณค่อนข้างย่ำแย่ อาจจะมีอาการเลือดออกตามไรฟัน หรืออาจมีการติดเชื้อขั้นรุนแรง จำเป็นต้องรีบรักษาก่อนที่อาการจะหนักขึ้นกว่าเดิม
4. เหม็นคาว
อาการที่กลิ่นปากมีกลิ่นคาวนั้นก็มีหลายรูปแบบเช่นกัน เช่น กลิ่นลมหายใจคาว ต้องระวังโรคตับ ถ้าเป็นกลิ่นคาวเลือด ต้องระวังโรคดีซ่าน หรือถ้าเป็นกลิ่นคาวเหมือนกลิ่นสัตว์ที่เหม็นคาว อาจจะต้องระวังโรคไข้ทรพิษ ซึ่งเป็นโรคที่ค่อนข้างอันตราย ดังนั้น เมื่อรู้สึกว่ากลิ่นลมหายใจของตัวเองผิดปกติ และพยายามดูแลทำความสะอาดอย่างดีแล้ว แต่ก็ยังไม่หาย ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจรักษาจะดีที่สุด อย่างน้อยแม้จะไม่ได้เป็นโรคอื่น ๆ อย่างที่กังวล แต่ก็ช่วยทำให้อาการกลิ่นลมหายใจเหม็นหายไปได้
ลมหายใจเหม็นจากข้างใน
ไม่ว่าใครก็ไม่อยากให้ลมหายใจของตัวเองมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ออกมา จึงหมั่นทำความสะอาดและดูแลสุขภาพช่องปากอยู่เป็นประจำ แต่บางครั้งแค่การดูแลภายนอกอาจจะไม่ได้ช่วยอะไรได้มากนัก เพราะสาเหตุของการเกิดกลิ่นปากมาจากปัจจัยภายในร่างกาย จึกต้องมาดูสาตุที่แท้จริงกันว่ากลิ่นปากและลมหาใจที่เหม็นนี้เกิดจากอะไร เพื่อจะได้รักษาได้ถูกจุด โดยสาเหตุที่ทำให้ลมหายใจเหม็นจากข้างใน มีดังนี้
1. อาการฟันผุ ที่เกิดจากเศษอาหารไปสะสมอยู่ที่ฝัน จนกลายเป็นแบคทีเรียที่สามารถทำลายฟันได้ ถ้าปล่อยไว้นานก็อาจะทะลุไปจนถึงดพรงฟันได้
2. โรคเหงือกอักเสบ เมื่อมีหินปูนสะสมที่ฟันเป็นจำนวนมาก ก็อาจจะทำให้เกิดโรคเหงือกอักเสบที่สร้างความเจ็บปวดและทำให้เกิดกลิ่นปากได้
3. ก็แผลในช่องปาก ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดกลิ่นปาก แม้ว่าจะมีการทำความสะอาดอย่างดี แต่ถ้าแผลเกิดการอักเสบขึ้น ก็ทำให้เกิดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ขึ้นได้ เช่น แผลร้อนใน แผลจากการผ่าตัดในช่องปาก แผลจากเนื้องอก เป็นต้น
4. บุคคลที่ใส่อุปกรณ์ต่าง ๆ ในช่องปาก ไม่ว่าจะเป็นการใส่เหล็กจัดฟัน ใส่รีเทนเนอร์ หรือใส่ฟันปลอม ถ้าหากไม่มีการรักษาความสะอาดให้เพียงพอก็มีโอกาสที่จะเกิดกลิ่นปากได้
ลมหายใจเหม็น แก้ยังไง?
การแก้ปัญหาลมหายใจเหม็น ทำให้ลมหายใจกลับมาหอมสดชื่นเหมือนปกติ สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการแปรงฟันให้เป็นประจำและถูกวิธี โดยวิธีการแปรงฟันที่จะช่วยทำให้ฟันของคุณสะอาดได้อย่างแท้จริง คือ ควรวางขนแปรงให้ทำมุม 45 องศากับฟันหรือขอบเหงือก เพื่อให้สามารถขจัดคราบสกปรกออกได้อย่างหมดจด ควรแปรงที่บริเวณลิ้นและขอบเหงือกให้สาอาดด้วย เพราะเป็นอีกหนึ่งแหล่เพาะเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดกลิ่นปากได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ยังสามารถใช้การบ้วนปากเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการทำลายแบคทีเรียและคราบสกปรกที่แปรงสีฟันเข้าไม่ถึง การบ้านปากหลังแปลงฟันจะช่วยให้ปากสะอาดมายิ่งขึ้น ส่วนในซอกฟันเล็ก ๆ สามารถใช้ไหมขั้นฟันค่อย ๆ ขัดอย่างใจเย็น ก็จะช่วยให้เศษอาหารที่หลุดรอดไประหว่างแปรงฟันหลุดออกไปได้ และอีกหนึ่งอย่างที่สำคัญก็คือ การเลือกใช้ยาสีฟันและแปรงสีฟันที่มีคุณภาพ มีการเปลี่ยนแปรงสีฟันทุก 3 เดือน ก็จะช่วยทำให้ประสิทธิภาพในการแปลงฟันของคุณดีขึ้น มั่นใจได้ว่าช่องปากจะสะอาด มีลมหายใจสดชื่นอย่างแน่นอน
ลมหายใจเหม็น รักษาอย่างไร?
ถ้าการแปรงฟันและดูแลช่องปากอย่างสม่ำเสมอยังไม่สามารถทำให้ลมหายใจของคุณหายเหม็น อาจจะต้องปรับพฤติกรรมการกินอาหารโดยการเลือกกินอาหารที่กลิ่นไม่แรง หรือไม่มีกลิ่น เพื่อป้องกันการเกิดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ งดสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ ดื่มน้ำสะอาดให้มาก ๆ ใช้ลูกอมระงับกลิ่นปาก หรือใช้สเปรย์ดับกลิ่นปากโดยเฉพาะ เพื่อเพิ่มความมั่นใจมากขึ้น