โรคริดสีดวงทวาร เกิดจากเส้นเลือดดำที่ทวารหนักและบริเวณส่วนปลายของลำไส้ใหญ่เกิดอาการบวมและพองขึ้น จนกลายเป็นติ่งที่ยื่นนูนออกมาจากรูทวารหนัก แบ่งออกเป็น 2 ชนิดคือ โรคริดสีดวงภายในและโรคริดสีดวงภายนอก
โรคริดสีดวงทวาร เป็นโรคที่แค่เห็นชื่อก็รู้สึกได้ถึงความน่ากลัวแล้ว แถมจุดที่เกิดก็เป็นจุดที่ค่อนข้างส่วนตัว ทำให้มีผู้ป่วยหลายคนไม่กล้าเข้ารับการรักษา ยอมทนเจ็บปล่อยเอาไว้หวังว่าจะหายได้เอง แต่สุดท้ายก็มีอาการจะหนักขึ้นกว่าเดิม ดังนั้น เราเลยมีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับโรคริดสีดวง ที่หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้ทุกคนได้รู้จักสังเกตอาการเพื่อให้สามารถป้องกันการเกิดโรคและได้รับการรักษาได้อย่างทันท่วงที
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ ริดสีดวง
โรคริดสีดวง เป็นโรคที่เกิดจากเส้นเลือดดำที่ทวารหนักและบริเวณส่วนปลายของลำไส้ใหญ่เกิดอาการบวมและพองขึ้น จนกลายเป็นติ่งที่ยื่นนูนออกมาจากรูทวารหนัก แบ่งออกเป็น 2 ชนิดคือ โรคริดสีดวงภายในและโรคริดสีดวงภายนอก
ซึ่งโรคริดสีดวงภายในนั้น เกิดจากเนื้อเยื่อที่อยู่ตรงรูทวารหนัก มีการโป่งพองและแตกจนมีเลือดออกมา แม้ว่าจะดูน่ากลัวแต่ก็ไม่ได้สร้างความเจ็บปวดเท่าไหร่นัก เพราะบริเวณนี้มีเส้นประสาทที่สามารถรับความรู้สึกได้อยู่น้อยมาก และถูกคลุมด้วยเยื่อของลำไส้ใหญ่ตอนปลายอีกที จึงไม่ค่อยรู้สึกเจ็บเท่าไหร่
ส่วนโรคริดสีดวงภายนอก จะเกิดขึ้นในบริเวณรูทวารหนักส่วนล่าง โดยจะมีอาการนูนเป็นติ่งยื่นออกมาจากรูทวารหนัก ถ้าเป็นโรคริดสีดวงประเภทนี้จะรู้สึกเจ็บมากเพราะสามารถมีเส้นประสาทรับความรู้สึกอยู่ ซึ่งหลอดเลือดที่พองนั้นจะถูกคลุมด้วยผิวหนัง สามารถมองเห็นและสัมผัสได้อย่างชัดเจนเมื่อมีอาการ
สำหรับโรคริดสีดวงทั้งภายในและภายนอกนั้น อาการจะแบ่งออกได้เป็น 4 ระยะตามความรุนแรงที่เกิดขึ้น
เริ่มจากมีอาการถ่ายอุจจาระออกมาเป็นเลือด แต่ว่าริดสีดวงยังคงมีขนาดเล็กอยู่
จะเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้น เมื่อมีการเบ่งอุจจาระ จะมีติ่งเนื้อยื่นออกมา และสามารถหดกลับเข้าไปได้เอง
ในระยะนี้ติ่งที่ยื่นออกมาจะไม่สามารถหดกลับไปเองได้ และจะยื่นออกมามากกว่าเดิมในขณะไอหรือจาม ผู้ป่วยต้องดันเข้าไปด้วยตัวเอง
ด้วยความที่ริดสีดวงมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ติ่งเนื้อจะยื่นออกมาถาวร ไม่สามารถดันกลับเข้าไปได้แล้ว ต้องไปหาหมอเพื่อทำการรักษา เพราะในช่วงนี้จะมีอาการเจ็บปวดเป็นอย่างมาก อาการที่เห็นภายนอกจะมีทั้งบวมแดง อักเสบ มีเลือดออกรุนแรง อาจจะมีน้ำเหลืองปะปนออกมาด้วย ทำให้ไม่สามารถนั่งหรือขยับตัวได้สะดวกนัก จึงเป็นปัญหาต่อการใช้ชีวิตมาก ๆ ถ้าไม่ไปหาหมอเพื่อทำการรักษาก็อาจจะทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนขึ้นได้ ซึ่งเป็นอันตรายมาก ๆ
ผู้ป่วยที่เป็นโรคริดสีดวงจำเป็นจะต้องใส่ใจเรื่องอาหารการกินมาเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้ไปกระตุ้นให้อาการหนักขึ้น และยังสามารถช่วยป้องกันการเกิดริดสีดวงขึ้นใหม่ได้อีกด้วย โดยอาหารที่กินได้นั้น ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่อาหารที่มีกากใยอาหารสูง เพราะดีต่อระบบขับถ่าย ซึ่งที่อยากจะแนะนำก็คือ พืชตะกูลถั่ว ที่นอกจากจะมีเส้นใยสูงแล้วยังมีแคลอรี่ต่ำ อาหารจำพวกธัญพืชเต็มเมล็ดและยังไม่ผ่านการขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ข้าวบาร์เลย์ที่อุดมไปด้วยจมูกข้าว
นอกจากนี้ยังมีพวกผักกระหล่ำ ผักที่เป็นหัว เช่น มันเทศ มันฝรั่ง แครอท หัวไชเท้า ผลไม้อย่างลูกพรุนและโยเกิร์ตก็สามารถกินได้เช่นกัน เพราะมีแบคทีเรียดีที่ดีต่อลำไส้ ช่วยลดอาการท้องผูกที่เป็นสาตุสำคัญของการเกิดโรคริดสีดวง
อาการริดสีดวงที่ไม่รุนแรงสามารถปล่อยให้หายเองได้ เพียงแค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและการขับถ่าย โดยกินอาหารที่มีกากใยสูง เพื่อป้องกันการเกิดโรคท้องผูก และงดการเบ่งขณะถ่ายอุจจาะ เพื่อป้องกันไม่ให้ริดสีดวงเกิดการอักเสบขึ้นมา หมั่นนั่งแช่ในน้ำอุ่นเพื่อลดการอักเสบ ถ้าสามารถควบคุมได้ อาการริดสีดวงก็จะค่อย ๆ หายไปเองโดยที่ไม่ต้องมาหาหมอเพื่อรักษาหรือผ่าตัด
ริดสีดวงภายนอก ก็สามารถหายเองได้ ส่วนมากจะหายเองได้ ถ้าดูแลอย่างถูกวิธี
ถ้าอาการริดสีดวงอยู่ในระดับที่รุนแรง ทางแพทย์จะเริ่มให้การรักษาโดยการให้กินยาลดบวมของเส้นเลือดดำและยาแก้ปวด อาจจะมีการใช้ยาเหน็บร่วมด้วย เพื่อช่วยบรรเทาอาการโดยตรง ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้น จะมีการฉีดยาเข้าไปในชั้นใต้เยื่อบุ เหนือระดับรูทวาร เป็นเป็นการทำให้พังผืดรัดเส้นเลือด
อีกหนึ่งวิธีการรักษาที่มีการใช้กันแพร่หลายก็คือ การใช้ยางรัด เหมาะสำหรับผู้ป่วยริดสีดวงที่มีอาการยื่นออกมาแล้ว เมื่อทำการรัดหัวริดสีดวงที่ยื่นออกมา สุดท้ายก็จะค่อย ๆ ฝ่อและหลุดไปเอง นอกจากนี้ยังมีวิธีการรักษาด้วยการใช้เครื่องจี้ไฟฟ้าหรือเครื่องจี้อินฟาเรตทำการจี้เพื่อกำจัดติ่งเนื้อที่ยื่นออกไป แต่ถ้าสุดท้ายแล้วยังไม่สามารถรักษาให้หายได้ หรือแพทย์มีการวินิจฉัยแล้ว ก็จะใช้วิธีการผ่าตัดเพื่อเอาริดสีดวงออกมา โดยส่วนมาแล้ว ผู้ที่จะต้องผ่าตัดมักจะเป็นริดสีดวงอยู่ในระยะที่ 3 และ 4 แล้ว ซึ่งจะมีอาการค่อนข้างรุนแรง ถ้าปล่อยเอาไว้อาจจะเกิดอาการแทรกซ้อนที่อันตรายขึ้นมาได้ จึงต้องรีบผ่าตัดเพื่อกำจัดริดสีดวงให้หมดไป