โรคปากนกกระจอก เกิดจากการอักเสบจากการติดเชื้อราที่ผิวหนัง โดยส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นบริเวณมุมปาก หรือเกิดจากร่างกายการขาดสารอาหารประเภทวิตามินบี 2 และธาตุเหล็ก
เชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะต้องเคยมีประสบการณ์การเป็นปากนกกระจอกกันบ้าง อาการเจ็บ ๆ แสบ ๆ ที่มุมปาก สร้างความน่ารำคาญใจให้เป็นอย่างมาก แม้ว่าโรคปากนกกระจอกจะไม่ได้มีอันตรายร้ายแรง แต่ก็ควรมีวิธีป้องกันและรักษาที่ถูกต้อง ขึ้นชื่อว่าเป็นโรคแล้วไม่เป็นเลยจะดีที่สุด
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ ปากนกกระจอก
โรคปากนกกระจอก หรือ Angular Cheilitis เป็นอีกหนึ่งอาการป่วยที่เกิดจากการอักเสบ โดยส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นบริเวณมุมปาก ซึ่งสาเหตุของการเกิดโรคปากนกกระจอกก็คือ การติดเชื้อราที่ผิวหนัง ตัวเชื้อราที่ก่อให้เกิดโรคนี้ก็คือเชื้อแคนดิดา (Candida) เป็นเชื้อราตัวเดียวกับที่ทำให้เกิดโรคผื่นผ้าอ้อมในเด็กเล็ก นอกจากนี้ ยังมีสาเหตุอื่น ๆ อีกก็คือ
เมื่อเกิดการหมักหมมจากน้ำลายที่บริเวณมุมปาก ก็จะทำให้เชื้อราเจริญเติบโตได้ง่าย ทำให้ติดเชื้อจนกลายเป็นโรคปากนกกระจอก หรืออาจจะเกิดจากการที่ปากแห้งแตกเป็นประจำ เกิดจากโรเริมที่ริมฝีปาก และอีกหนึ่งสาเหตุที่คาดไม่ถึงก็คือลักษณะทางกายภายของปากก็มีส่วนเช่นกัน โดยเฉพาะคนที่มุมปากตก มีรอยย่นที่มุมปากเยอะและลึกมาก ก็อาจจะทำให้เกิดโรคปากนกกระจอกได้
อาการของโรคปากนกกระจอกในช่วงเริ่มต้นมักจะเกิดอาการระคายเคืองที่บริเวณมุมมาก รู้สึกปวดแสบปวดร้อน เมื่ออาการเริ่มรุนแรงขึ้นจะเกิดตุ่มพอง มีรอยแดง มีของเหลวหรือเลือดไหลออกมาจากปากแผล เกิดเป็นสะเกิดแผลที่มุมปาก นอกจากนี้ยังมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ปากแห้งแตกและลอก มีอาการริมฝีปากตึงจนทำให้รู้สึกไม่สบาย รู้สึกคันตรงบริเวณปากหรือตรงรอยแผล ถ้าเป็นหนัก ๆ ก็อาจจะส่งผลทำให้กินอาหารได้ไม่สะดวก ทำให้เสี่ยงที่จะเกิดการขาดสารอาหารได้
อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคปากนกกระจอกก็คือการขาดสารอาหารประเภทวิตามินบี 2 และธาตุเหล็ก เมื่อร่างกายของเรามีสารอาหารเหล่านี้ไม่เพียงพอ ก็จะส่งผลให้เกิดอาการปากแห้ง ลอก และแตก ผิวหนังบริเวณมุมปากเกิดการระคายเคืองได้ง่าย เมื่อเป็นแผลก็ยิ่งติดเชื้อราได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้เกิดเป็นโรคปากนกกระจอกนั่นเอง
โรคปากนกกระจอกนั้นสามารถเริ่มต้นป้องกันการเกิดโรคได้โดยการกินอาหารที่อุมดมไปด้วยวิตามินบี 2 และธาตุเหล็ก เช่น ผักใบเขียว เนื้อปลา ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมือ ถั่ว นม ไข่ เป็นต้น เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน เป็นการป้องกันการเกิดโรคที่ต้นเหตุ แต่ถ้าหากมีอาการของโรคปากนกกระจอกแล้ว ก็จำเป็นต้องรักษาและดูแลเป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่โรคที่มีความรุนแรง แต่ก็สามารถทำให้เจ็บปวดและสร้างความรำคาญใจได้
การรักษาเบื้องต้น คือ พยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้มุมปากเปียกชื้น งดการเลียปาก เพราะจะทำให้แผลแห้งช้า และติดเชื้อได้ง่าย นอกจากนี้ก็สามารถรักษาได้โดยการใช้ยาต้านเชื้อราและยาต้านแบคทีเรีย สามารถสอบถามชนิดของยาได้หรือร้านขายยาหรือโรงพยาบาล ซึ่งการใช้ยาจะช่วยทำให้แผลที่ติดเชื้อบริเวณมุมปากหายได้เร็วขึ้น เมื่อใช้ร่มกับการดูแลตัวเองที่ดีก็จะทำให้หายเร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ถ้าหากว่าคุณมีการดูและรักษาที่ดี ทายาเป็นประจำ โรคปากนกกระจอกสามารถหายเองได้ภายใน 7-10 วัน ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของรอยแผลและการดูแลตัวเอง
สาเหตุของโรคปากนกกระจอกก็คือการติดเชื้อราที่ผิวหนัง ทำให้เกิดการบวมแดง พอง เป็นตุ่มน้ำและมีเลือดบริเวณมุมปาก แต่โรคเริมนั้นเกิดจากเชื้อไวรัส จะมีเพียงตุ่มน้ำใส ๆ ขนาดเล็ก เท่านั้น ไม่มีการบวมแดง ผู้ป่วยจะรู้สึกคันและปวดแสบปวดร้อน สามารถติดได้จากการสัมผัสกับผู้ป่วยคนอื่นผ่านการใช้สิ่งของร่วมกัน และอาจจะเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ป่วยคนอื่นก็สามารถรับเชื้อมาได้เช่นกัน มักจะพบได้ในบริเวณปากและอวัยวะเพศ
แต่ถ้าเป็นโรคเริ่มแล้วก็ไม่ต้องกังวลจนเกินไป เพราะโรคเริมสามารถหายเองได้ ดื่มน้ำเยอะ ๆ พักผ่อนให้เพียงพอ ถ้ามีอาการไข้ หรืออ่อนเพลียควรรีบไปพบแพทย์จะดีที่สุด