เมื่อเข้าสู่ช่วงหน้าร้อน อากาศที่ร้อนจัดและความชื้นสูงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตได้ดี ส่งผลให้เกิดโรคติดต่อหลายชนิดที่มักระบาดในช่วงนี้ เพื่อดูแลสุขภาพของทุกคนในครอบครัวปลอดภัยดี เราจึงควรเตรียมตัวรับมือกับโรคหน้าร้อนด้วยความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคต่าง ๆ อาการอันตราย และวิธีการป้องกันที่ถูกต้อง
โรคพิษสุนัขบ้า (Rabies)
โรคพิษสุนัขบ้าเกิดจากเชื้อไวรัสเรบีส์ (Rabies virus) ซึ่งเป็นไวรัสที่ส่งผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้เกิดอาการทางประสาทที่รุนแรงและมักถึงแก่ชีวิต โรคระบาดนี้ติดต่อได้ผ่านทางน้ำลายของสัตว์ที่ติดเชื้อ โดยส่วนใหญ่เกิดจากการถูกสัตว์ที่มีเชื้อกัด ข่วน หรือเลียบริเวณที่มีบาดแผล ในหน้าร้อนที่สัตว์มีพฤติกรรมหงุดหงิดจึงมีการระบาดของโรคนี้มากกว่าในหน้าอื่น ๆ
อาการและอันตราย
1. มีไข้ ปวดเมื่อย คันบริเวณแผลที่ถูกกัด
2. หากไม่รักษาทันทีอาจทำให้ระบบประสาทถูกทำลายและเสียชีวิต
วิธีการป้องกัน
1. นำสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเป็นประจำทุกปี
2. หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้และสัมผัสสัตว์ที่ไม่รู้จัก
3. หากถูกกัดหรือข่วน ให้ล้างแผลและไปพบแพทย์ทันที

ไวรัสตับอักเสบA
ไวรัสตับอักเสบเอ (Hepatitis A) เป็นโรคหน้าร้อนที่คนไม่ค่อยนึกถึงกันนัก เกิดจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ (HAV) ทำให้เกิดการอักเสบของตับแบบเฉียบพลัน โรคนี้ติดต่อผ่านการรับประทานอาหารหรือน้ำดื่มที่ปนเปื้อนเชื้อ หรืออาหารที่ไม่ได้ปรุงสุก
อาการและอันตราย
1. อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน ปัสสาวะเข้ม ตัวเหลือง ตาเหลือง
2. ในกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือผู้ที่มีโรคตับอยู่แล้ว เช่น ตับแข็ง ไวรัสตับอักเสบบีหรือซี อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงและทำให้ตับวายได้
วิธีป้องกัน
1. รับประทานอาหารที่ปรุงสุกสะอาด และดื่มน้ำดื่มที่สะอาด
2. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารทะเลที่ไม่ปรุงสุก
3. การฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบเอ
โรคอาหารเป็นพิษ (Food Poisoning)
โรคอาหารเป็นพิษเป็นโรคหน้าร้อนที่เกิดจากการรับประทานอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย เช่น ซาลโมเนลลา หรืออีโคไล ซึ่งมักพบในอาหารที่ปรุงไม่สุกหรือเก็บรักษาไม่ดีในอุณหภูมิที่เหมาะสม
อาการและอันตราย
1. ปวดท้อง ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน
2. หากอาการรุนแรงอาจทำให้ร่างกายขาดน้ำและเกลือแร่จนช็อกได้
วิธีการป้องกัน
1. รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ๆ
2. ล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหาร
3. หลีกเลี่ยงอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ และอาหารที่ทิ้งไว้นาน

โรคไข้ไทฟอยด์ หรือไข้รากสาดน้อย (Typhoid Fever)
ไข้ไทฟอยด์เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Salmonella Typhi ซึ่งปนเปื้อนในอาหารหรือน้ำ
อาการและอันตราย
1. ไข้สูง ปวดหัว อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร
2. หากไม่รักษาอาจทำให้ลำไส้ทะลุหรือติดเชื้อในกระแสเลือด
วิธีการป้องกัน
1. รับประทานอาหารและน้ำที่สะอาด
2. ฉีดวัคซีนป้องกันไข้ไทฟอยด์
โรคบิด
โรคบิดเป็นโรคหน้าร้อนที่พบบ่อย สาเหตุหลักมาจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรืออะมีบาในลำไส้ ซึ่งมักแพร่กระจายผ่านอาหารและน้ำดื่มที่ปนเปื้อน
อาการและอันตราย
1. ถ่ายอุจจาระบ่อย มีมูกหรือเลือดปน ปวดเบ่ง และมีไข้
2. อาจทำให้เกิดภาวะขาดน้ำและเกลือแร่รุนแรง และอาจมีภาวะแทรกซ้อน เช่น ลำไส้ทะลุ หรือการติดเชื้อในกระแสเลือด
วิธีการป้องกัน
1. ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำบ่อยๆ โดยเฉพาะก่อนรับประทานอาหารและหลังเข้าห้องน้ำ
2. รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ๆ และดื่มน้ำสะอาด
3. รักษาความสะอาดของห้องน้ำและสุขา

โรคอหิวาตกโรค
โรคอหิวาตกโรคเป็นโรคติดต่อทางเดินอาหารที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Vibrio cholerae ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที โรคนี้เป็นโรคระบาดที่มักพบในพื้นที่ที่มีสุขอนามัยไม่ดี
อาการและอันตราย
1. ถ่ายเหลวเป็นน้ำจำนวนมากโดยไม่มีอาการปวดท้อง อาเจียน และอาจมีภาวะขาดน้ำอย่างรวดเร็ว
2. หากไม่ได้รับการรักษาทันที อาจทำให้เสียชีวิตได้
วิธีการป้องกัน
1. ดื่มน้ำสะอาด หรือน้ำที่ผ่านการต้มฆ่าเชื้อ
2. รับประทานอาหารที่ปรุงสุกสะอาด และหลีกเลี่ยงอาหารดิบหรือสุกๆ ดิบๆ
3. รักษาความสะอาดของแหล่งน้ำ และหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำจากแหล่งที่ไม่สะอาด
4. กำจัดขยะและสิ่งปฏิกูลอย่างถูกวิธี
5. ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงอาจฉีดวัคซีนเพื่อป้องกัน
โรคอุจจาระร่วง (Diarrhea)
โรคอุจจาระร่วงเป็นโรคหน้าร้อนที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียผ่านการรับประทานอาหารหรือน้ำที่ไม่สะอาด
อาการและอันตราย
1. ถ่ายเหลวบ่อยครั้ง อาจมีไข้หรืออาเจียนร่วมด้วย
2. หากร่างกายสูญเสียน้ำมากอาจทำให้ช็อกหรือเสียชีวิตได้
วิธีการป้องกัน
1. ดื่มน้ำสะอาดและรับประทานอาหารที่ปรุงสุก
2. ล้างมือทุกครั้งหลังเข้าห้องน้ำและก่อนรับประทานอาหาร
สรุป
การเตรียมตัวรับมือกับโรคหน้าร้อนไม่ใช่เรื่องยาก หากเรามีความรู้และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เริ่มตั้งแต่การดูแลสุขอนามัยส่วนตัว รับประทานอาหารและน้ำที่สะอาด หลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์หรือแมลงที่เป็นพาหะ และระมัดระวังการเก็บรักษาอาหารให้ถูกวิธี เพียงเท่านี้เราก็สามารถผ่านหน้าร้อนนี้ไปได้อย่างปลอดภัยและมีสุขภาพดี
อย่าลืมว่า “ป้องกันไว้ดีกว่าแก้” เพราะการดูแลสุขภาพตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยและทำให้เรามีคุณภาพชีวิตที่ดีตลอดช่วงหน้าร้อนนี้!