โรคสมองเสื่อม (Dementia) และโรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer’s disease) เป็นคำสองคำที่มักถูกนำมาใช้สลับกันเมื่อพูดถึงอาการความจำเสื่อม ทำให้เกิดความเข้าใจผิดและความสับสนในคนทั่วไป แม้ว่าโรคอัลไซเมอร์จะเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของภาวะสมองเสื่อม แต่ทั้งสองคำนี้มีความหมายและขอบเขตที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน การทำความเข้าใจความแตกต่างเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการรับมือ การป้องกัน และการให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยได้อย่างเหมาะสม บทความนี้จะพาทุกท่านไปทำความเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างสมองเสื่อมและโรคอัลไซเมอร์อย่างละเอียด เพื่อคลายความสับสนที่เกิดขึ้น
สมองเสื่อม (Dementia) ภาวะที่ความสามารถทางสมองเสื่อมถอย
คำว่า “สมองเสื่อม” ไม่ใช่ชื่อของโรคโดยตรง แต่เป็นกลุ่มอาการ (Syndrome) ที่บ่งบอกถึงภาวะที่ความสามารถในการทำงานของสมองเสื่อมถอยลงอย่างต่อเนื่องและรุนแรง จนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ป่วยในหลาย ๆ ด้าน เช่น ความจำ การคิด การใช้ภาษา การตัดสินใจ และพฤติกรรม

อาการหลักของภาวะสมองเสื่อม
1. ความจำเสื่อม ลืมเรื่องราวที่เพิ่งเกิดขึ้น ลืมชื่อคน สิ่งของ หรือนัดหมาย
2. ปัญหาด้านภาษา พูดไม่คล่อง หาคำพูดไม่เจอ หรือเข้าใจคำพูดได้ยาก
3. การคิดและเหตุผลบกพร่อง วางแผน จัดการ หรือแก้ปัญหาได้ยาก
4. การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและอารมณ์ หงุดหงิดง่าย ซึมเศร้า วิตกกังวล หรือมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
5. การหลงทิศ ไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน หรือจำเส้นทางไม่ได้
สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือ ภาวะสมองเสื่อมไม่ใช่ส่วนหนึ่งของการแก่ตัวตามธรรมชาติ แม้ว่าความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นตามอายุ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่สูงวัยจะต้องเป็นโรคสมองเสื่อม
สาเหตุของภาวะสมองเสื่อม
ภาวะสมองเสื่อมสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งรวมถึงโรคต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อสมอง เช่น
1. โรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer’s disease) เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของภาวะสมองเสื่อม คิดเป็นประมาณ 60-80% ของผู้ป่วยสมองเสื่อมทั้งหมด
2. โรคหลอดเลือดสมอง (Vascular dementia) เกิดจากการที่เลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอเนื่องจากปัญหาเกี่ยวกับหลอดเลือดสมอง
3. ภาวะสมองเสื่อมจากโรคพาร์กินสัน (Parkinson’s disease dementia) เกิดขึ้นในผู้ป่วยโรคพาร์กินสันที่มีอาการทางสมองเสื่อมร่วมด้วย
4. ภาวะสมองเสื่อมจาก Lewy body (Lewy body dementia) มีลักษณะเฉพาะคืออาการทางกาย เช่น การเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ และอาการทางจิตเวช เช่น ภาพหลอน
5. ภาวะสมองเสื่อมจากโรค HIV (HIV-associated dementia) เกิดจากการติดเชื้อ HIV ที่ส่งผลกระทบต่อสมอง
6. ภาวะสมองเสื่อมจากแอลกอฮอล์ การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากและต่อเนื่องเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อสมอง
7. ภาวะสมองเสื่อมจากโรคอื่นๆ เช่น โรค Huntington’s disease, โรค Creutzfeldt-Jakob disease เป็นต้น

โรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer’s disease) หนึ่งในสาเหตุของภาวะสมองเสื่อม
โรคอัลไซเมอร์เป็นโรคทางสมองชนิดหนึ่งที่ทำให้เซลล์สมองเสื่อมและตายลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ความสามารถในการทำงานของสมองค่อย ๆ ลดลง โรคนี้เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของภาวะสมองเสื่อม โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ
ลักษณะสำคัญของโรคอัลไซเมอร์
โรคอัลไซเมอร์มีลักษณะอาการที่สามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนโดยผู้ใกล้ชิด ดังนี้
1. สูญเสียความทรงจำกะทันหัน
โรคอัลไซเมอร์ทำให้เกิดปัญหาเรื่องความทรงจำ และบ่อยครั้งผู้ป่วยจะสูญเสียความทรงจำอย่างกะทันหัน เช่น ออกจากบ้านไปจ่ายตลาดตามปกติ แต่อยู่ ๆ กลับนึกไม่ออกว่าบ้านอยู่ที่ไหน ทำให้ยากต่อการดูแล และบางครั้งอาจเป็นอันตรายต่อตัวผู้ป่วย
2. สูญเสียการคิดและการใช้เหตุผล
ผู้ป่วยที่เป็นโรคอัลไซเมอร์จะสูญเสียทักษะด้านตรรกะในการตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ เช่น ใช้สิ่งของผิดวิธี ตัดสินใจอย่างไม่สมเหตุสมผล ลืมลำดับวิธีการทำงานพื้นฐานทั่วไป เช่น ลำดับในการซักผ้า หรือทำกับข้าว และยังรวมถึงไม่สามารถคำนวณตัวเลขได้ หรือคำนวณได้แต่ช้าและสับสน
3. สูญเสียทักษะ
ผู้ป่วยจะค่อยๆ สูญเสียทักษะที่มีอยู่ไป ที่สังเกตเห็นได้ชัดได้แก่ ทักษะในการพูดและสื่อสาร โดยผู้ป่วยมักจะเริ่มสื่อสารไม่ค่อยได้ พูดจาสับสน ไม่เข้าใจหรือใช้คำศัพท์ยาก ๆ ไม่ได้ และไม่สามารถพูดหรืออ่านภาษาต่างประเทศที่เคยใช้ได้ นอกจากนี้ก็จะสูญเสียทักษะทั่วไปในชีวิตประจำวัน เช่น อยู่ดี ๆ ลืมวิธีขับรถ หรือใช้ไมโครเวฟ ใช้ไฟแช็คไม่เป็น ทั้งที่เคยใช้อยู่เสมอ เมื่ออาการรุนแรงขึ้น ผู้ป่วยจะเริ่มสูญเสียทักษะในการเคลื่อนไหว ไปจนถึงทักษะจำเป็นอย่างการเคี้ยวอาหาร
โรคอัลไซเมอร์เป็นโรคที่ดำเนินไปอย่างช้า ๆ และมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ปัจจุบันยังไม่มีวิธีการรักษาให้หายขาด แต่มีวิธีการรักษาที่ช่วยชะลอความเสื่อมของสมองและบรรเทาอาการต่าง ๆ ได้

สรุป
การทำความเข้าใจว่า “สมองเสื่อม” เป็นภาวะที่กว้างกว่า และ “โรคอัลไซเมอร์” เป็นหนึ่งในสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของภาวะสมองเสื่อมนั้น เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง การแยกแยะความแตกต่างนี้จะช่วยให้เราสามารถสื่อสารเกี่ยวกับอาการได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ และเฝ้าระวังดูแลผู้ป่วยได้อย่างเหมาะสม รวมถึงเตรียมการรับมือและจัดการกับภาวะความจำเสื่อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หากคุณหรือคนใกล้ชิดมีอาการที่น่าสงสัยเกี่ยวกับภาวะสมองเสื่อม ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการดูแลรักษาที่เหมาะสม เพื่อป้องกันไม่ให้อาการรุนแรงมากขึ้น