สำหรับคุณแม่หรือคุณพ่อที่กำลังจะมีเจ้าตัวน้อยมาเป็นสมาชิกใหม่ในบ้าน บางครั้งอาจมีการตั้งคำถามว่า ระหว่าง คลอดธรรมชาติ กับ ผ่าคลอด ควรเลือกการคลอดลูกแบบไหนดี ซึ่งหากปรึกษาคนรอบข้างก็อาจจะได้คำตอบที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นการขอรับคำแนะนำและการประเมินจากคุณหมอที่ทำการฝากครรภ์น่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด เพราะมีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณา บทความนี้เรามาดูข้อมูลของการคลอดลูกทั้ง 2 แบบกันว่าแตกต่างกันอย่างไร
การคลอดลูกแบบคลอดธรรมชาติ
เรามาเริ่มต้นกันด้วยการคลอดลูกแบบคลอดธรรมชาติ ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้กันมาตั้งแต่โบราณ โดยเป็นการคลอดทารกออกมาทางช่องคลอด วิธีนี้เหมาะกับคุณแม่ที่มีสุขภาพแข็งแรง คุณหมอที่รับฝากครรภ์ประเมินแล้วว่าคุณแม่ไม่มีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายระหว่างทำการคลอดลูก รวมถึงไม่มีภาวะแทรกซ้อนหรือผลข้างเคียงอื่นใดด้วย
ข้อดีของการคลอดธรรมชาติ
1. แผลมีขนาดเล็ก
ข้อดีข้อแรกของการคลอดแบบธรรมชาติก็คือมีเพียงแผลขนาดเล็กเท่านั้น โดยขนาดของแผลจะอยู่ที่ราว 2-4 ซม. ซึ่งขนาดของแผลของคุณแม่แต่ละคนก็ไม่เท่ากัน โดยถ้าผ่านการคลอดลูกมาแล้วแผลอาจจะเล็กกว่าเพราะช่องคลอดมีความยืดหยุ่นมากกว่านั่นเอง

2. ร่างกายของคุณแม่สามารถฟื้นตัวได้เร็ว
ข้อดีประการต่อมาของการคลอดธรรมชาติก็คือร่างกายของคุณแม่สามารถฟื้นตัวได้เร็ว เหตุผลก็เนื่องมาจากการคลอดธรรมชาตินั้นมีแผลที่เล็กกว่าเมื่อเทียบกับการผ่าคลอด ทำให้ใช้เวลาเพียงไม่นานคุณแม่ก็สามารถลถกเดินหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้แล้ว
3. เป็นผลดีกับทารก
ในกรณีนี้ทางการแพทย์สามารถอธิบายได้ว่า เวลาที่ทารกเคลื่อนตัวออกจากช่องคลอดของคุณแม่นั้นร่างกายก็จะถูกรีดน้ำในช่องอกออกไปด้วยในขณะเดียวกัน ซึ่งเป็นผลดีต่อระบบทางเดินหายใจ ช่วยให้แตราการเต้นของหัวใจเป็นไปตามปกติ
4. มีส่วนช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน
ข้อนี้ถือว่าธรรมชาติให้มาก็คงไม่ผิด เพราะการคลอดลูกแบบธรรมชาตินั้นทารกจะได้รับ Probiotic มากกว่าการผ่าตัดคลอด ทำให้ร่างกายได้รับการสร้างภูมิต้านทานไปในตัว โดยมีผลการวิจัยรองรับเรื่องนี้หลายฉบับด้วยกัน

ข้อเสียของการคลอดแบบธรรมชาติ
1.ไม่ทราบเวลาคลอดที่แน่นอน
การคลอดแบบธรรมชาติเป็นเรื่องที่ไม่สามารถกำหนดเวลาที่แน่นอนได้ ไม่รู้ว่าเจ้าตัวน้อยพร้อมออกมาลืมตาดูโลกวันไหน สัปดาห์ใด หรือเวลากี่โมง ทุกอย่างต้องให้ธรรมชาติและร่างกายของคุณแม่เป็นตัวกำหนดว่าเจ็บท้องคลอดตอนไหนหรือปากมดลูกเปิดเวลาใด
2. อาจต้องใช้เวลารอนาน
คำว่ารอนานในที่นี้หมายถึงการรอให้ปากมดลูกเปิดถึง 10 ซม. บางคนเจ็บท้องคลอดมาโรงพยาบาลแต่ต้องนอนรออีกหลายชั่วโมง เนื่องจากการคลอดลูกนั้นประกอบด้วยระยะเฉื่อยและระยะเร่ง เป็นช่วงเวลาที่ทั้งคุณพ่อและคุณแม่รวมถึงญาติ ๆ ที่มาเป็นกำลังใจต่างต้องช่วยกันลุ้น
3. อาจทำให้ช่องคลอดหลวมได้
เรื่องนี้อาจไม่เป็นปัญหามากนักสำหรับคุณแม่ที่เพิ่งคลอดลูกเป็นครั้งแรก แต่สำหรับคุณแม่ที่คลอดเอง 2-3 คน อาจมีการหย่อนของอุ้งเชิงกรานหรือกระบังลม หรือช่องคลอดหลวมได้ ซึ่งไม่ต้องเป็นกังวลมากจนเกินไปเพราะคุณสามารถปรึกษาคุณหมอได้ในเรื่องนี้
การคลอดลูกแบบผ่าคลอด
มาที่การคลอดลูกแบบผ่าคลอดกันบ้าง สำหรับวิธีนี้เหมาะกับคุณแม่ที่สุขภาพมีปัญหาไม่สามารถคลอดเองได้ธรรมชาติ เพราะอาจเกิดความเสี่ยงต่อทั้งแม่และทารก เช่น สายสะดือถูกกดทับหลังน้ำเดิน ออกซิเจนในเลือดของลูกต่ำกว่าปกติ สายสะดือย้อย รกลอกเร็วกว่ากำหนด ซึ่งการคลอดแบบนี้หลังคลอดคุณแม่จะต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษเพื่อป้องกันการติดเชื้อที่อาจเกิดขึ้นกับแผลผ่าตัด

ข้อดีของการคลอดลูกแบบผ่าคลอด
1. รู้กำหนดเวลาคลอดที่แน่นอน
ข้อดีข้อแรกของการคลอดลูกแบบผ่าคลอดก็คือ สามารถกำหนดเวลาคลอดล่วงหน้าได้ ทั้งนี้ควรมากกว่า 38 สัปดาห์ขึ้นไป เพื่อลดความเสี่ยงของทารกในการมีภาวะแทรกซ้อนด้านระบบทางเดินหายใจ หรือใครที่ถือฤกษ์ถือยามก็สามารถกำหนดวันเวลาในการทำคลอดลูกได้
2. ไม่ต้องเสียเวลารอนาน
สืบเนื่องจากข้อแรกการคลอดลูกแบบผ่าคลอดสามารถกำหนดวันและเวลาได้ ต่างจากการคลอดแบบธรรมชาติที่ต้องรอปากมดลูกเปิด ซึ่งในการผ่าตัดคลอดนั้นจะใช้เวลาประมาณ 45 นาที หรือไม่เกิน 1 ชั่วโมงเท่านั้น
3. ไม่กระทบกับอุ้งเชิงกรานหรือกระบังลม
ต่างจากการคลอดแบบธรรมชาติการผ่าคลอดจะไม่ส่งผลกระทบกับอุ้งเชิงกรานหรือกระบังลม รวมถึงเส้นเอ็นต่าง ๆ ไม่ทำให้ช่องคลอดหลวม เนื่องจากไม่ต้องออกแรงเบ่งเหมือนการคลอดแบบธรรมชาติ
ข้อเสียของการคลอดลูกแบบผ่าคลอด
1.เกิดแผลเป็นในบริเวณที่ผ่าตัด
แน่นอนว่าการผ่าตัดคลอดนั้นจะทิ้งร่องรอยของแผลเป็นเอาไว้ ความกว้างประมาณให้หัวทารกผ่านออกมาได้ ราว 12-15 ซม. ซึ่งหลังผ่าคลอดคุณแม่ต้องดูแลแผลอย่างดีเพื่อให้เกิดรอยแผลเป็นน้อยที่สุดรวมถึงลดการติดเชื้อด้วย

2. คุณแม่อาจมีอาการแพ้ยาได้
ในการผ่าคลอดนั้นต้องมีการใช้ยาสลบหรือการบล็อกหลังเพื่อลดความเจ็บระหว่างการผ่าตัด ซึ่งในขั้นตอนการผ่าตัดแบบนี้อาจทำให้เกิดการแพ้ยาได้ในคุณแม่บางราย
3. ทารกอาจมีภาวะหายใจเร็ว
เนื่องจากการคลอดลูกด้วยวิธีผ่าคลอดนั้น ทารกจะไม่ผ่านการหดรัดของช่องคลอดเหมือนการคลอดธรรมชาติ จึงไม่มีการรีดน้ำในช่องอกออก ทำให้ทารกที่คลอดออกมาอาจมีภาวะหายใจเร็วได้ แต่ไม่ใช่อาการที่ร้ายแรงยกเว้นมีอาการแทรกซ้อนอื่น ๆ ร่วมด้วย
สรุป
จะเห็นได้ว่าการคลอดธรรมชาติ กับ ผ่าคลอดนั้นมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ส่วนจะเลือกการคลอดลูกแบบใดนั้นควรให้อยู่ในดุลยพินิจของแพทย์เจ้าของไข้ เพื่อความเหมาะสมและความปลอดภัยของทั้งตัวคุณแม่และทารกที่จะคลอดอออกมา