เรียกได้ว่าเป็นโรคยอดฮิตที่มักจะพบในเด็กเล็กอยู่เป็นประจำ สำหรับโรคมือเท้าปาก โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนที่มีฝนตกหนัก อากาศชื้น ก็ยิ่งทำให้เกิดการระบาดได้ง่ายขึ้น ผู้ปกครองต่างก็ต้องใส่ใจดูแลบุตรหลานมากเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันไม่ให้ติดโรคนี้ เพราะเป็นโรคติดต่อผ่านการสัมผัสเพียงน้ำมูก หรือน้ำลายได้ วันนี้เราจึงมีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับโรคมือเท้าปากมาฝากกัน
โรคมือเท้าปาก หรือ Hand Foot and Mouth Disease เกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่มเอนเทอโร Enterovirus 71 (EV71) Coxsackie Virus เกิดได้ง่ายในเด็กเล้กที่ร่างกายยังมีภูมิคุ้มกันที่ไม่แข็งแรง
โดยเฉพาะในโรงเรียนอนุบาล โรงเรียนประถม หรือสถานเลี้ยงเด็กที่มีเด็กอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก เมื่อมีเด็กที่ป่วยเพียงหนึ่งคน ก็สามารถแพร่กระจายสู่เด็กคนอื่นได้อย่างรวดเร็ว
ส่วนใหญ่แล้วอาการของโรคมือเท้าปากก็จะสามารถรักษาหายได้ภายใน 3-7 วัน แต่ก็มีในบางกรณีที่มีอาการหนัก เพราะมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็นพื้นฐานร่างกายของผู้ป่วย ว่าเดิมทีแล้วแข็งแรงดีหรือไม่ เพราะถ้ามีภูมิคุ้มกันที่ดี เมื่อติดเชื้อก็รักษาหายได้ไว แต่ถ้าอยู่ในช่วงที่ภูมิคุ้มกันตก หรือมีการรักษาด้วยการใช้ยาที่ต้องกดภูมิคุ้มกันเอาไว้ อาการของโรคมือเท้าปากก็จะยิ่งรุนแรงได้ง่ายขึ้น ถ้าไม่อยากให้อาการแย่ลง ก็ต้องยิ่งเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงขึ้นเร็วๆ
สาเหตุของการติดโรคมือเท้าปากนั้น ส่วนใหญ่จะมาจากการที่ได้รับเชื้อจากผู้ป่วยคนอื่นผ่านทางการ
ส่งผลให้ร่างการได้รับเชื้อไวรัสเข้าไป มักจะพบได้ในเด็กเล็ก เพราะมีโอกาสติดได้ง่ายกว่า เนื่องจากร่างกายยังไม่มีภูมิคุ้มกันที่ดี ส่วนในผู้ใหญ่หรือเด็กโตนั้นก็สามารถติดได้เช่นกัน แต่อาการจะไม่รุนแรงเท่าเด็กเล็ก
อาการของโรคมือเท้าปากนั้น เมื่อได้รับเชื้อ ผู้ป่วยจะมีไข้ขึ้นสูงประมาณ 38-39 องศาเซลเซียส มีอาการอ่อนเพลียอย่างเห็นได้ชัด เริ่มมีแผลในปาก มีตุ่มน้ำใสและจุดแดง ๆ ขึ้นบริเวณฝ่ามือ เท้า และตามลำตัว ถ้าในรายที่มีอาการรุนแรง ก็จะมีตุ่มที่แขน ขา เพิ่มขึ้นด้วย ระยะเวลาการฟักตัวของโรคจะอยู่ที่ 3-7 วัน ถึงจะแสดงอาการออกมาให้เห็น
หลายๆคนน่าจะเข้าใจว่า โรคมือเท้าปากนั้นสามารถพบได้ในเด็กเล็กเท่านั้น แต่ว่าเป็นจริงแล้ว ในเด็กโตหรือผู้ใหญ่ก็สามารถติดโรคนี้ได้เช่นกัน แถมถ้ามาติดในจังหวะที่ภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแอ ก็อาจจะทำให้อาการหนักได้ไม่แพ้กับเด็ก ๆ เลย ดังนั้นจึงไม่ควรชะล่าใจเด็ดขาด เมื่ออยู่ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดจำเป็นต้องดูแลและป้องกันตัวเองเข้าไว้
ส่วนใหญ่แล้ว ผู้ใหญ่มักจะติดโรคมือเท้าปากมาจากเด็กเล็กที่ตัวเองดูแลอยู่และป่วยเป็นโรคนั่นเอง เมื่อต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ก็หลีกเลี่ยงที่จะสัมผัสสารคัดหลั่งต่าง ๆ ได้ยาก ในผู้ใหญ่บางคนที่ไม่ติดโรค หรือติดแล้วมีอาการไม่รุนแรง ก็อาจจะเป็นเพราะร่างกายเคยได้รับเชื้อมาก่อนหน้านี้แล้ว เมื่อได้รับอีกครั้งจึงไม่เป็นอะไรมาก
ส่วนใหญ่แล้วอาการในเด็กจะมีความรุนแรงกว่าผู้ใหญ่ เพราะเด็กยังมีภูมิคุ้มกันที่ไม่สมบูรณ์ เพื่อป้องกันไม่ให้ติดโรคมือเท้าปากได้ง่าย พ่อแม่ ผู้ปกครองจำเป็นต้องดูแลสุขภาพร่างกายของเด็ก ๆ ให้แข็งแรงเข้าไว้ ควรให้ทานอาหารที่เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงให้มากที่สุด เมื่อถึงคราวที่ต้องติดโรค อาการก็จะไม่ร้ายแรงเท่าที่ควร
วิธีการรักษาโรคมือเท้าปาก จะเป็นการรักษาตามอาการที่พบ เพราะในตอนนี้ยังไม่มียาที่รักษาโนตรง และยังไม่มีวัคซีนที่ฉีดเพื่อป้องกัน แพทย์จึงต้องคอยดูและสังเกตอาการของผู้ป่วยอยู่ตลอด เพื่อที่จะได้รักษาได้ตรงกับอาการ และสามารถเสริมได้ด้วยการกินอาหารที่เป็นประโยชน์และอาหารอ่อน ๆ เช่น โจ๊กหรือข้าวต้ม ที่สำคัญก็คือต้องดื่มน้ำให้มาก ๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ ร่างกายถึงจะฟื้นตัวได้เร็ว
การป้องกันที่ดีที่สุดก็คือการทำให้ร่างกายแข็งแรงเข้าไว้ เพราะมื่อมีมีภูมิคุ้มกันที่ดี ร่างกายก็จะสามารถต่อสู้กับเชื้อโรคได้ แม้จะไม่ทำให้ป้องกันได้ 100% แต่ก็ช่วยให้อาการของโรคบรรเทาความรุนแรงลงไปได้ ส่วนอีกเรื่องที่สำคัญก็คือ